สวัสดีครับ ผมหมอไกด์ ทันตแพทย์พงศกร อภิญสถานนท์ นะครับ
ตลอดระยะเวลาที่ผมทำงานเป็นทันตแพทย์ มีหนึ่งคำถามที่ผมมักจะได้ยินจากคนไข้อยู่เสมอ โดยเฉพาะในเวลาที่ต้องตัดสินใจเลือกวัสดุสำหรับการทำ ครอบฟัน คำถามนั้นเรียบง่ายแต่ลึกซึ้งมากครับ…
“ถ้าเป็นฟันของญาติหมอ หรือเป็นฟันของคนในครอบครัวหมอเอง…หมอจะเลือกใช้วัสดุแบบไหนครับ?”
เป็นคำถามที่ยอดเยี่ยมมากครับ เพราะมันตัดเรื่องธุรกิจหรือปัจจัยอื่นๆ ออกไป เหลือเพียงความปรารถนาดีอย่างที่อยากจะมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับคนที่เรารักและห่วงใย วันนี้ผมจึงอยากจะขอใช้พื้นที่ตรงนี้ ไม่ใช่แค่เพื่อตอบคำถาม แต่เพื่อ “เล่าเรื่อง” ให้ฟังครับ เป็นเรื่องราวของคนไข้คนหนึ่งซึ่งบังเอิญเป็นญาติสนิทของผมเองที่ประสบปัญหาเรื่องฟัน และการตัดสินใจครั้งสำคัญในการเลือกทำ “ครอบฟันเซรามิกล้วน (All-Ceramic Crown)” เพื่อคืนรอยยิ้มที่มั่นใจและสุขภาพฟันที่ดีให้กับเขา
ผมหวังว่าเรื่องราวนี้จะช่วยให้หลายๆ ท่านที่กำลังลังเล ได้เห็นภาพและเข้าใจอย่างลึกซึ้งว่า ทำไมการเลือกวัสดุที่ใช่ และการเลือกทันตแพทย์ที่ใส่ใจในทุกรายละเอียด จึงเป็นหัวใจสำคัญของการรักษาครับ
จุดเริ่มต้นของปัญหา: เมื่อฟันที่เคยแข็งแรงส่งสัญญาณเตือน
เรื่องราวเริ่มต้นจากญาติของผมท่านหนึ่งครับ เขาเป็นคนยิ้มเก่ง อัธยาศัยดี แต่ช่วงหลังๆ มานี้ ผมสังเกตเห็นว่ารอยยิ้มของเขาไม่สดใสเหมือนเคย เขาเริ่มไม่ค่อยมั่นใจเวลายิ้มกว้างๆ หรือหัวเราะ
หลังจากที่ได้พูดคุยกัน เขาเล่าให้ฟังว่ามีปัญหาที่ฟันกรามน้อยสองซี่ซึ่งเคย รักษารากฟัน มานานหลายปีแล้ว ตัวฟันเดิมมีวัสดุอุดขนาดใหญ่มาก และสีของฟันก็เริ่มคล้ำลงอย่างเห็นได้ชัด ที่สำคัญคือ เขารู้สึกเสียวฟันจี๊ดๆ เวลาเคี้ยวอาหารแข็งๆ ทำให้ต้องเปลี่ยนไปเคี้ยวอีกข้างหนึ่งแทน ซึ่งส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันไม่น้อย
ในฐานะทันตแพทย์ ผมทราบทันทีว่านี่คือสัญญาณอันตราย ฟันที่ผ่านการรักษารากฟันจะเปราะบางกว่าฟันปกติ เพราะไม่มีเส้นเลือดมาหล่อเลี้ยงอีกต่อไป การมีวัสดุอุดขนาดใหญ่ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงที่เนื้อฟันที่เหลืออยู่จะทนแรงบดเคี้ยวไม่ไหวและเกิดการ แตกหัก ซึ่งหากฟันแตกไปจนถึงรากฟัน การรักษาก็จะซับซ้อนขึ้นมาก หรือในกรณีที่เลวร้ายที่สุด อาจจะต้องถอนฟันซี่นั้นทิ้งไป
ทางออกที่ดีที่สุดในกรณีนี้คือ “การทำครอบฟัน” เพื่อปกป้องโครงสร้างฟันที่เหลืออยู่ทั้งหมด ให้กลับมาแข็งแรงใช้งานได้เหมือนเดิม และแน่นอนว่าต้องคืนความสวยงามเป็นธรรมชาติให้กับรอยยิ้มของเขาด้วย
บนทางแยกของการตัดสินใจ: PFM vs. All-Ceramic
เมื่อมาถึงขั้นตอนการเลือกชนิดของครอบฟัน ผมได้อธิบายทางเลือกหลักๆ ที่เป็นที่นิยมในปัจจุบันให้ญาติของผมฟัง ซึ่งก็เหมือนกับที่ผมอธิบายให้คนไข้ทุกคนครับ
-
ครอบฟันแบบโลหะเคลือบเซรามิก (Porcelain-Fused-to-Metal หรือ PFM): เป็นครอบฟันแบบดั้งเดิมที่ได้รับความนิยมมานาน ด้านในเป็นโครงโลหะเพื่อความแข็งแรง และด้านนอกเคลือบด้วยเซรามิกเพื่อให้มีสีเหมือนฟัน มีข้อดีคือแข็งแรงและมีราคาที่เข้าถึงง่ายกว่า แต่ก็มีข้อจำกัดที่สำคัญคือเรื่องความสวยงาม เนื่องจากโครงโลหะด้านในมีความทึบแสง ทำให้ฟันซี่นั้นดูไม่โปร่งแสงเหมือนฟันธรรมชาติ และเมื่อใช้ไปนานๆ เหงือกอาจร่นลงเล็กน้อย ทำให้เห็นเป็น ขอบเหงือกดำ ซึ่งเป็นเงาของโลหะที่อยู่ด้านในได้
-
ครอบฟันเซรามิกล้วน (All-Ceramic Crown): เป็นเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อตอบโจทย์ทั้งด้านความแข็งแรงและความสวยงามอย่างสูงสุด วัสดุทำจากเซรามิกชนิดพิเศษทั้งชิ้น เช่น Zirconia หรือ E-max ซึ่งไม่มีส่วนผสมของโลหะเลย
แน่นอนว่า เมื่อผมอธิบายมาถึงตรงนี้ ญาติของผมก็ถามคำถามนั้นขึ้นมา… “แล้วถ้าเป็นฟันของหมอเองล่ะ หมอจะเลือกอะไร?”
ผมยิ้มและตอบไปโดยไม่ลังเลเลยว่า “ผมเลือกครอบฟันเซรามิกล้วนครับ”
ทำไม “เซรามิกล้วน” จึงเป็นคำตอบสำหรับคนที่เรารัก?
การตัดสินใจของผมไม่ได้มาจากความรู้สึกเพียงอย่างเดียว แต่มาจากเหตุผลทางทันตกรรมและประสบการณ์ที่สั่งสมมา ซึ่งผมอยากจะแบ่งปันให้ทุกคนได้เข้าใจถึงข้อดีที่เหนือกว่าของ ครอบฟันเซรามิกล้วน ครับ
-
ที่สุดแห่งความสวยงามเป็นธรรมชาติ (Superior Aesthetics): นี่คือจุดเด่นที่ชัดเจนที่สุดครับ ด้วยความที่วัสดุเป็นเซรามิกทั้งชิ้น ทำให้แสงสามารถส่องผ่านตัวครอบฟันได้ในลักษณะที่ใกล้เคียงกับฟันธรรมชาติมากๆ (Translucency) ผลลัพธ์ที่ได้คือครอบฟันที่ดูมีชีวิตชีวา กลมกลืนไปกับฟันซี่อื่นๆ จนแทบแยกไม่ออก ไม่ว่าจะเป็นการทำ ครอบฟันหน้า ที่ต้องการความสวยงามสูงสุด หรือฟันกรามที่อยู่ด้านในก็ตาม หมดกังวลเรื่องรอยยิ้มที่ดูทึบตัน หรือปัญหาขอบเหงือกดำที่จะเกิดขึ้นในอนาคตไปได้เลยครับ
-
ความเข้ากันได้ดีกับร่างกาย (Excellent Biocompatibility): เนื่องจากไม่มีส่วนประกอบของโลหะ วัสดุเซรามิกล้วนจึงเข้ากันได้ดีกับเนื้อเยื่อในช่องปาก โดยเฉพาะเหงือก ลดโอกาสการเกิดการระคายเคือง อาการแพ้โลหะ หรือเหงือกอักเสบได้เป็นอย่างดี เหงือกบริเวณรอบๆ ครอบฟันจะมีสุขภาพที่ดีและดูเป็นธรรมชาติ
-
ความแข็งแรงทนทานที่ไว้ใจได้ (Proven Strength and Durability): หลายคนอาจมีความเชื่อเดิมๆ ว่าเซรามิกนั้นเปราะบาง แต่ในปัจจุบัน เทคโนโลยีวัสดุศาสตร์ทางทันตกรรมก้าวไปไกลมากครับ เซรามิกชนิดพิเศษอย่าง Zirconia มีความแข็งแรงสูงมาก ทนทานต่อแรงบดเคี้ยวได้ดีเยี่ยม สามารถใช้ได้ทั้งกับฟันหน้าและฟันกรามได้อย่างไม่มีปัญหา สามารถใช้งานได้ยาวนานหลายปีหากดูแลรักษาอย่างถูกวิธี
-
ความแนบสนิทและแม่นยำสูงสุด (Precision Fit): ในกระบวนการทำครอบฟันเซรามิกล้วนที่ PSK Dental Center เราใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วย ตั้งแต่การสแกนฟัน 3 มิติ (Digital Impression) ไปจนถึงการออกแบบและขึ้นรูปครอบฟันด้วยระบบคอมพิวเตอร์ (CAD/CAM) ทำให้ได้ชิ้นงานที่มีความแม่นยำสูงมาก ขอบของครอบฟันจะแนบสนิทไปกับขอบฟันที่เตรียมไว้ได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงที่แบคทีเรียหรือเศษอาหารจะเข้าไปสะสมใต้ครอบฟัน อันเป็นสาเหตุของฟันผุและกลิ่นปากในอนาคต
เบื้องหลังรอยยิ้มที่สมบูรณ์แบบ: ไม่ใช่แค่วัสดุ แต่คือ “ความใส่ใจ”
การเลือกใช้วัสดุที่ดีที่สุดเป็นเพียงส่วนหนึ่งของสมการเท่านั้นครับ อีกครึ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กันคือ “กระบวนการและฝีมือของทันตแพทย์” สำหรับเคสของญาติผม (และแน่นอนว่าสำหรับคนไข้ทุกๆ คนของผม) ผมให้ความสำคัญกับทุกขั้นตอนอย่างละเอียดที่สุด
-
การวางแผนคือหัวใจ: เราเริ่มต้นจากการตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด ถ่ายภาพรังสี และภาพถ่ายในช่องปาก เพื่อประเมินสภาพฟันและโครงสร้างโดยรอบอย่างครบถ้วน ผมจะพูดคุยกับคนไข้ถึงความต้องการและความคาดหวัง เพื่อนำมาออกแบบการรักษาที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแต่ละบุคคล
-
ศิลปะแห่งการเทียบสีฟัน: ขั้นตอนนี้เป็นมากกว่าแค่วิทยาศาสตร์ครับ มันคือศิลปะ ผมไม่ได้แค่เลือกสีจากแผ่นเทียบสี แต่จะพิจารณาถึงมิติของสี (Hue, Chroma, Value), ความโปร่งแสง, และลักษณะพื้นผิว (Surface Texture) ของฟันซี่ข้างเคียง เพื่อให้ช่างทันตกรรม (Lab Technician) สามารถสร้างสรรค์ครอบฟันที่เหมือนฟันธรรมชาติที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้
-
การเตรียมฟันอย่างพิถีพิถัน: การกรอแต่งเนื้อฟันเพื่อรองรับครอบฟันจะต้องทำอย่างระมัดระวังและแม่นยำที่สุด เพื่อรักษาเนื้อฟันที่ดีไว้ให้ได้มากที่สุด และเพื่อให้ได้ความหนาที่เหมาะสมสำหรับวัสดุเซรามิก เพื่อให้ครอบฟันมีความแข็งแรงและสวยงามสูงสุด
-
การทำงานร่วมกับ Lab ทันตกรรมชั้นนำ: ผมเลือกทำงานกับ Lab ทันตกรรมที่มีมาตรฐานสูงและมีความเชี่ยวชาญในการทำชิ้นงานเซรามิกโดยเฉพาะ เราสื่อสารกันอย่างใกล้ชิดในทุกขั้นตอน เพื่อให้แน่ใจว่าชิ้นงานที่ออกมาจะสมบูรณ์แบบตรงตามแผนที่วางไว้
-
วันส่งมอบรอยยิ้ม: ก่อนที่จะยึดครอบฟันแบบถาวร ผมจะทำการลองชิ้นงานในช่องปากของคนไข้ก่อนเสมอ ตรวจสอบความแนบสนิทของขอบ, การสบฟัน, จุดสัมผัสกับฟันข้างเคียง และที่สำคัญคือ “ความพึงพอใจ” ของคนไข้ในเรื่องของสีและรูปร่าง เมื่อทุกอย่างสมบูรณ์แบบ 100% แล้วเท่านั้น เราจึงจะทำการยึดครอบฟันด้วยซีเมนต์ชนิดพิเศษ
หลังจากที่ญาติของผมได้รับการใส่ ครอบฟันเซรามิกล้วน ไปแล้ว สิ่งแรกที่ผมเห็นคือรอยยิ้มกว้างที่เต็มไปด้วยความมั่นใจ เขาลองเคี้ยวอาหารและบอกว่ารู้สึกเหมือนเป็นฟันของตัวเองจริงๆ ไม่มีอาการเสียวอีกต่อไป และเมื่อลองส่องกระจกดู เขาก็บอกว่า “แยกไม่ออกเลยว่าซี่ไหนคือครอบฟัน”
คำพูดนั้นคือรางวัลที่ดีที่สุดสำหรับผมในฐานะทันตแพทย์ครับ
บทสรุป: การลงทุนเพื่อรอยยิ้มและสุขภาพที่ดีในระยะยาว
กลับมาที่คำถามแรกสุด “ถ้าเป็นญาติหมอ หมอจะเลือกอะไร?” ตอนนี้ทุกท่านคงได้คำตอบแล้วนะครับ ผมเลือก ครอบฟันเซรามิกล้วน ไม่ใช่เพราะมันเป็นตัวเลือกที่แพงที่สุด แต่เพราะมันคือตัวเลือกที่ “ดีที่สุด” ในการมอบผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์ครบทุกมิติ ทั้งความสวยงาม ความแข็งแรงทนทาน และสุขภาพที่ดีของเหงือกและฟันในระยะยาว
การทำครอบฟันไม่ใช่แค่การซ่อมแซมฟันที่เสียหาย แต่คือการลงทุนเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น เพื่อรอยยิ้มที่สร้างความมั่นใจ และเพื่อความสุขในการรับประทานอาหารอร่อยๆ ไปอีกนานเท่านาน
หากคุณกำลังประสบปัญหาฟันแตก ฟันบิ่น ฟันผุขนาดใหญ่ หรือมีครอบฟันเก่าที่เห็นขอบเหงือกดำและต้องการเปลี่ยนให้สวยงามเป็นธรรมชาติ ผมอยากให้เรื่องราวนี้เป็นแนวทางในการตัดสินใจของคุณครับ
ที่ PSK Dental Center เราเชื่อว่าคนไข้ทุกคนคือคนสำคัญที่เราอยากดูแลให้ดีที่สุดเหมือนคนในครอบครัว หากคุณมีคำถามหรือข้อสงสัยเกี่ยวกับการทำ ครอบฟัน หรือการดูแลสุขภาพช่องปากด้านอื่นๆ อย่าลังเลที่จะเข้ามาปรึกษาหมอไกด์ได้นะครับ
มาเริ่มต้นคืนรอยยิ้มที่สดใสและสุขภาพฟันที่แข็งแรงให้กับตัวคุณเอง…คนที่คุณก็รักไม่น้อยไปกว่าใครๆ ครับ
กำลังมองหาคลินิกทำครอบฟันที่เชื่อถือได้อยู่ใช่ไหม? นัดหมายเพื่อปรึกษาปัญหาและวางแผนการรักษากับ ทันตแพทย์พงศกร (หมอไกด์) ได้โดยตรงที่ PSK Dental Center
ติดต่อเรา:
-
เบอร์โทรศัพท์: 064-691-6165
-
LINE Official: @pskdentalcenter
-
Facebook/Instagram: PSKDentalCenter
- แผนที่คลินิก: https://maps.app.goo.gl/k3Vx6zjfXhgQB2iJ6
คำถามที่พบบ่อย (Frequently Asked Questions) เกี่ยวกับครอบฟันเซรามิกล้วน
Q1: ครอบฟันคืออะไร และจำเป็นต้องทำในกรณีไหนบ้าง?
A: ครอบฟัน (Dental Crown) คือวัสดุบูรณะฟันที่มีลักษณะเหมือน “มงกุฎ” หรือ “หมวก” ที่ถูกทำขึ้นมาโดยเฉพาะเพื่อสวมทับลงบนฟันซี่ที่ได้รับความเสียหายทั้งซี่ครับ การทำครอบฟันจำเป็นในหลายกรณี เช่น:
-
ฟันที่ผ่านการรักษารากฟัน: เพื่อป้องกันฟันที่เปราะบางจากการแตกหัก
-
ฟันที่มีรอยผุขนาดใหญ่มาก: จนไม่สามารถอุดฟันตามปกติได้
-
ฟันที่แตก บิ่น หรือร้าว: เพื่อบูรณะรูปร่างและความแข็งแรงกลับคืนมา
-
ฟันที่มีสีคล้ำหรือรูปร่างผิดปกติอย่างรุนแรง: เพื่อความสวยงามและสร้างรอยยิ้มที่มั่นใจ
-
ใช้เป็นส่วนหนึ่งของการทำสะพานฟัน (Dental Bridge)
Q2: ครอบฟันเซรามิกล้วน (All-Ceramic) แตกต่างจากครอบฟันแบบโลหะเคลือบเซรามิก (PFM) อย่างไร?
A: ข้อแตกต่างที่สำคัญที่สุดคือ “วัสดุ” ที่ใช้ทำโครงสร้างด้านในครับ
-
ครอบฟันโลหะเคลือบเซรามิก (PFM): มีโครงด้านในเป็น “โลหะ” เพื่อความแข็งแรง และเคลือบ “เซรามิก” ไว้ด้านนอกเพื่อให้มีสีเหมือนฟัน
-
ครอบฟันเซรามิกล้วน (All-Ceramic): ทำจากวัสดุ “เซรามิกชนิดพิเศษ” ทั้งชิ้น ไม่มีส่วนผสมของโลหะเลย
ความแตกต่างนี้ส่งผลโดยตรงต่อ ความสวยงาม (เซรามิกล้วนจะโปร่งแสงเหมือนฟันธรรมชาติมากกว่า และไม่มีปัญหาขอบเหงือกดำในระยะยาว) และ ความเข้ากันได้กับร่างกาย (เซรามิกล้วนไม่ก่อให้เกิดการแพ้โลหะและเป็นมิตรต่อเหงือกมากกว่า)
Q3: ครอบฟันเซรามิกล้วนแข็งแรงพอสำหรับฟันกรามที่ใช้บดเคี้ยวหนักๆ หรือไม่?
A: แข็งแรงเพียงพอแน่นอนครับ ในอดีตเซรามิกอาจมีความแข็งแรงไม่มากนัก แต่ปัจจุบันมีเทคโนโลยีวัสดุศาสตร์ที่ก้าวหน้าไปมาก วัสดุเซรามิกล้วนชนิด Zirconia (เซอร์โคเนีย) มีความแข็งแรงทนทานสูงมาก สามารถทนต่อแรงบดเคี้ยวได้ดีเยี่ยม จึงสามารถใช้ทำครอบฟันได้ทั้งฟันหน้าและฟันกรามได้อย่างมั่นใจครับ
Q4: ครอบฟันเซรามิกล้วนมีอายุการใช้งานนานแค่ไหน?
A: โดยทั่วไป ครอบฟันเซรามิกล้วนมีอายุการใช้งานเฉลี่ยประมาณ 10-15 ปี หรืออาจยาวนานกว่านั้นได้มาก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยสำคัญคือ การดูแลรักษาสุขภาพช่องปากอย่างถูกวิธี ของตัวคนไข้เอง การแปรงฟัน ใช้ไหมขัดฟันอย่างสม่ำเสมอ หลีกเลี่ยงการเคี้ยวของแข็งจัด และเข้าพบทันตแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพฟันทุก 6 เดือน จะช่วยยืดอายุการใช้งานของครอบฟันได้อย่างเต็มประสิทธิภาพครับ
Q5: ขั้นตอนการทำครอบฟันยุ่งยากไหม และต้องมาพบทันตแพทย์กี่ครั้ง?
A: โดยทั่วไปแล้ว การทำครอบฟันจะใช้เวลาประมาณ 2 ครั้งหลักๆ ครับ
-
ครั้งที่ 1: ทันตแพทย์จะตรวจและเตรียมฟัน (กรอแต่งฟัน) จากนั้นจะทำการพิมพ์ปากหรือสแกนฟันแบบ 3 มิติ เพื่อส่งข้อมูลไปให้ห้องปฏิบัติการทันตกรรม (Lab) สร้างชิ้นงานครอบฟัน ในระหว่างนี้ ทันตแพทย์จะใส่ครอบฟันชั่วคราวให้กลับไปใช้งานก่อน
-
ครั้งที่ 2: (หลังจากครั้งแรกประมาณ 1 สัปดาห์) ทันตแพทย์จะรื้อครอบฟันชั่วคราวออก และทำการลองครอบฟันตัวจริง เพื่อตรวจสอบความแนบสนิท การสบฟัน สี และรูปร่าง เมื่อทุกอย่างสมบูรณ์แบบและเป็นที่พอใจแล้ว ก็จะทำการยึดครอบฟันด้วยซีเมนต์ถาวร เป็นอันเสร็จสิ้นกระบวนการครับ
Q6: การทำครอบฟันเจ็บหรือไม่?
A: ไม่เจ็บครับ ในขั้นตอนการเตรียมฟัน ทันตแพทย์จะใช้ยาชาเฉพาะที่ ทำให้ระหว่างการรักษาคนไข้จะไม่รู้สึกเจ็บปวดเลย หลังจากยาชาหมดฤทธิ์อาจมีอาการเสียวฟันเล็กน้อยได้บ้าง ซึ่งเป็นอาการปกติและจะค่อยๆ หายไปเองภายในเวลาไม่นานครับ
Q7: ค่าใช้จ่ายในการทำครอบฟันเซรามิกล้วนแตกต่างจากแบบอื่นมากหรือไม่?
A: โดยทั่วไป ครอบฟันเซรามิกล้วนจะมีราคาสูงกว่าครอบฟันแบบโลหะเคลือบเซรามิก เนื่องจากต้นทุนของวัสดุและกระบวนการผลิตในห้องปฏิบัติการที่ซับซ้อนกว่า อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาถึงผลลัพธ์ด้านความสวยงามที่เป็นธรรมชาติ ความเข้ากันได้ดีกับร่างกาย และการหมดกังวลเรื่องขอบเหงือกดำในระยะยาว ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเพื่อสุขภาพและรอยยิ้มที่มั่นใจครับ สำหรับค่าใช้จ่ายที่แน่นอน สามารถเข้ามาปรึกษาและตรวจประเมินกับคุณหมอไกด์เพื่อรับแผนการรักษาเฉพาะบุคคลได้ครับ
Q8: ต้องดูแลรักษาครอบฟันเซรามิกล้วนเป็นพิเศษหรือไม่?
A: ไม่จำเป็นต้องดูแลเป็นพิเศษไปกว่าการดูแลฟันธรรมชาติเลยครับ สิ่งสำคัญคือการรักษาสุขอนามัยในช่องปากให้ดีเยี่ยมอยู่เสมอ นั่นคือ:
-
แปรงฟันอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง
-
ใช้ไหมขัดฟัน (Dental Floss) ทำความสะอาดบริเวณซอกฟันและขอบเหงือกทุกวัน
-
หลีกเลี่ยงการใช้ฟันกัดของแข็งมากๆ เช่น น้ำแข็ง หรือใช้ฟันเปิดขวด
-
พบทันตแพทย์เพื่อตรวจเช็กและขูดหินปูนเป็นประจำทุก 6 เดือน

